เทคนิคการใช้มือเป็นตัวกำหนดรู้ หรือตัวกำหนดสติมิให้เผลอ
ให้ระลึกไว้ว่า ในการออกแรงหรือกระทำการใดๆก็ตาม ที่สำคัญให้รักษาจังหวะให้คงที่ อย่าออกแรงเพิ่ม การออกแรงเพิ่มนั้น หมายถึงตัณหา(ความปรารถนา) เกิดขึ้นแล้ว โดยที่เราไม่รู้ตัว(รู้กาย) โดยตัณหานั้นเกิดตลอดเวลา เช่นเมื่อเราขยี้ผ้า ขัด ถู เช็ด ลูบ เราจะออกแรงเพิ่ม โดยออกแรงกด หรือเพิ่มความเร็วรอบ(ความถี่) ทำให้เมื่อยมือ และในระหว่างนั้นเอง ใจหรือจิตก็เหนื่อย เนื่องจากจิตเกิดความปรารถนา ต้องการให้งานเสร็จสิ้น แม้กระทั่งการเขียนหนังสือ เราจะต้องไม่ตวัด การตวัดเป็นการเพิ่มความเร็วช่วงปลายของตัวอักษรและกดทำให้เมื่อยมือ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เมื่อเอาการงานเป็นฐานของสติ ต้องไม่ออกแรงเพิ่ม เช่น กด ถี่ ซอย รูด(รูดใบกระเพา) ลากยาว สะบัด ปัด ปาด สลัด ตวัด กระทุ้ง กระตุก เตะ ต่อย ชก และนอกจากนี้ เมื่อทำสิ่งใดซ้ำแนวการเคลื่อนที่เดิม ให้ท่องคำใดๆ เช่น นับ 1 ถึง 10 นะโม พุทธายะ(ท่องให้จิตเกาะเกี่ยวกับการงาน เป็นอุบายล่อจิต เช่น แปลงฟัน นับ 1-10) และที่ว่าให้รักษาจังหวะ หรือคาบของการเคลื่อนที่ หรืออย่าเปลี่ยนแปลงจังหวะนั้น เพื่อมิให้ลมหายใจขัด หรือไม่สอดคล้องกับการเคลื่อนไหว อนึ่ง สติ จะมีความหมายอย่างไรก็ตามแต่ ให้รู้ว่าหมายถึงการรู้ตัว...รู้ใจ ใจนึกคิดวิตกอะไรก็ให้รู้ไว้ สามารถควบคุมกายและจิตได้โดยตลอด เมื่ออินทรีย์ปะทะสังสรรค์สิ่งที่มากระทบ ให้ทำความรู้ไว้ แต่อย่าให้เกิดวาจาหรือการกระทำออกมา เช่น เตะ ตบ เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น