วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สมาธิเคลื่อนที่กับข้อคิดข้อธรรม ๗



สมาธิเคลื่อนที่กับข้อคิดข้อธรรม ๗

๑.เหนื่อยกายต้องทน เหนื่อยคนต้องพิจารณา หาเหตุปัจจัย อุปนิสัย พื้นเพ สันดาน สติปัญญา ภูมิจิตภูมิธรรม คุณสมบัติ สภาวะ กิเลส กรรม วิบาก จิตจะยอมรับตามความเป็นจริง ใจจึงไม่โกรธ ไม่เคือง ไม่อาฆาต ไม่พยาบาท ไม่ปองร้าย ใจจะเบา เย็น สงบ สบาย ปรอดโปร่ง โล่ง แถมเมตตา สงสาร และเห็นใจหรือเกื้อกูลอีกด้วย

๒.หากินให้ดูวัย ชีวิตและสังขาร ไม่พึงให้ความแก่ ความเจ็บ ความตายมาตักเตือน สอน หรือสั่งเรา ชีวิตหมดทรัพย์ก็หมด เมามากก็เหนื่อยมาก ติดสมมุติไม่เห็นวิมุติ หากินให้ตายก็ตายเปล่า...มนุษย์สัตว์มีกรรม สติและความเพียรเป็นเครื่องถอดถอนกิเลส มันมาก สุขมาก ไม่เห็นธรรม ที่สำคัญเจ็บหนักและยาวเป็นอนันต์ๆ(ภัยในสังสารวัฏฏ์ และหรือโทษภัยในเหตุปัจจุบันที่ก่อ เช่น มีเป็นเกินกำลังแห่งตน อายุที่เหลือมีน้อย ตายแน่ๆ

๓.คนแก่บางคนอายุ ๖๐ ปี ๗๐ ปี ยังโกง จะตายอยู่แล้ว ยังโง่ทำบาปอีก กรรม บัวจริงๆ แบบนี้ต้องปล่อยตายอย่างเดียว ปล่อยให้ตายไป...

๔.ตายแล้วกระดูกเป็นแก้ว เนื้อเป็นหิน มันก็คือธาตุหรือวัตถุธาตุหรือแม้แต่วัตถุวิเศษ พิเศษ พิสดาร เมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ทั้งธาตุหรือวัตถุเช่นว่านั้น รวมตลอดถึงทั้งคนที่ยึดอีกทั้งโลกที่อยู่และอวกาศที่มีก็แปรเปลี่ยนสลาย แตกดับหมด สุญโญๆ รู้จิติ รู้สติรู้ธรรม คือทางดับทุกข์ (มรรค ๘) สิ่งภายนอกไม่พึ่งแวะมาก ไม่หลง ไม่เมา ไม่จม ไป หมายเหตุคำว่า ไป หมายถึง ไม่ติด ไม่ข้อง ไม่ยินดี ไม่พอใจ ไม่ผูก หรือไม่จมจนเดินต่อไม่ได้หรือเนิ่นช้าหรือเสียเวลาหรือช้าลงซึ่งทางดับทุกข์ หรือมรรค ๘ ข้อยกเว้น ยินดีได้แต่ไม่ติดไม่พึ่งให้สิ่งใดมาบดบังหรือปิดบังหรืออำพรางพระธรรม พระองค์ทรงตรัสไว้ดีแล้ว

๕.เมื่อไม่ทำบาป บุญก็มีและหรือใจก็บริสุทธิ์ด้วย ย่อมอาจหาญต่อยมบาล ตายยิ้ม พ้นนรก

๖.จิตเมตตาเมื่อใด ใจก็เย็นลงเมื่อนั้น สวรรค์ก็เปิดรออยู่ แต่ถ้าคิดร้ายใจก็ร้อน อยู่นอน ตื่นก็ไม่เป็นสุข ทำกรรมดี ไปโลด

๗.สิ่งสมมุติใครมีมากกว่ากันเป็นเพียงเกมส์สั้นๆ กว่าจะได้บ้านสักหลัง รถสักคัน กิจการสักแห่ง....ผมก็หงอกแล้ว แล้วก็มาดับ กรุงโรม บาบิโลน นครรัฐน้อยใหญ่ทั้งชื่อทั้งตัวหายหมดเป็นเพียงตำนาน อยู่กันคนละแวบจริงๆ ไม่พึ่งเมาสมมติติดบัญญัติเพียงแค่ได้ใช้ผ่านไป

๘.มนุษย์เป็นสัตว์บำเพ็ญ เพียงประคองจิตมิให้เกิดอกุศล ถ้าเกิดก็ละเสียหรือหาอุบายออก จิตละบาปชาติเจริญ จิตเกิดกุศลชาติมีแต่ เฮงๆๆ.....แต่ถ้าจิตมีบาปก็ต้องลำบากกันหน่อย รับกรรมกันหน่อยเพราะหลอกกัน เบียดเบียนกันเป็นธรรมดา ระวังเมื่ออยู่ร่วมกับคนหลงโลก เมาโลก ติดโลก หรือโลภ

๙.รวยตอนอายุ ๖๐ ปี ไม่มีประโยชน์...ตายเร็วกว่า ช้ากว่า ๑๐ ปี ๒๐ ปี ยังไงก็ตาย ไม่เห็นจะสุขกว่า หรือได้เปรียบกว่าตรงไหน ยิ่งอยู่นานใจไม่สงบ ไม่โปร่ง ไม่แช่มชื่น ไม่เบิกบาน ไม่บันเทิง อย่าอยู่ดีกว่า อยู่แบบนี้ เรียกว่า อยู่แบบมีกรรม ถ้ากายเสื่อมผุพังด้วยแล้ว ตายดีกว่า ถ้าอยู่ต่อถือว่า อยู่แบบชดใช้กรรม มีเป็นไปตามเหตุตามปัจจัยอยู่สบายใจก็สบาย ดับทุกข์ได้คือยอดมนุษย์ เพียงติดจิตก็ไม่อิสระแล้ว

๑๐.มนุษย์มีเวรมีกรรมผูกพันหรือทำกรรมใดกันมาไม่รู้ กระทบกันกินกันเป็นกรรมของวัฏฏะ อยู่ร่วมกับผู้มีศีลสบาย มันเป็นกรรมของสัตว์ อัฟเกรดกว่าจะขึ้นมาเป็นมนุษย์ก็แสนยาก ตายแล้วก็ท่องต่อ จะเกิดภูมิไหนก็ไม่รู้ คิดพูดทำดี  ไปดี สิ่งต่างๆไหลเลื่อนไปตามกาลเวลาอนันต์

๑๑.รีบมีชีวิตเพื่อตนเพื่อจะไม่ต้องเกิดอีก ตายอีก ไม่เชื่อธรรมก็ไปตามกรรม ไม่ฟังประเทศก็แค่ถูกลงโทษ ไม่อ่อนน้อมธรรมก็ไม่เกิดมีแก่ตน ไม่คารวะผู้ใหญ่ก็ไร้ได้ซึ่งความเมตตา ชีวิตก็มีแต่เวรแต่กรรม ลูกเวร ผัวเวร เมียเวร

๑๒.รากเหง้าปัญหาอยู่ที่ระบบคิดและวัฒนธรรม การออกแบบระบบหรือองค์กรหรือโครงสร้างสังคมใดๆเป็นเพียงเปลือก มนุษย์มีที่มาและต่างภูมิ(ภูมิจิตภูมิธรรม)เมื่อวัตถุนิยมเจริญและมีมิจฉาทิฎฐิด้วยแล้ว บัลลัย์ ดูเมือง ดูประเทศดูที่คุณภาพคน ต้องทำให้คนหลอกกันน้อยลง เบียดเบียนกันน้อยลง ความสำคัญอยู่ที่การต้องสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เข้าถึง เหตุผล ถูกผิด ดีชั่ว บาปบุญ คุณโทษ ประโยชน์ไม่ใช่ประโยชน์ นรกสวรรค์ แอนด์นิพพาน

๑๓.มนุษย์ต่างใจ ต่างความคิด ต่างความเห็นกันจะกำหนดให้คิดเห็นเหมือนกันหมดเป็นไปไม่ได้

๑๔.เมื่อแก่ลงทุกวันๆ ความแปร ความไม่เที่ยงเกิดขึ้นทุกขณะๆ ความพลัดพรากจากกันมีเป็นระยะๆ เมื่อยังเหลือกันอยู่ ควรเมตตาและหยุดหลอกกันไม่ดีหรือ อย่าลืมผลรวมของการได้และการมีจะเท่ากับสูญ ชีวิตที่เหลือก็น้อย ถ้าลมหายใจดับจะตั้งตัวไม่ทัน สรุปความตายต้องเตรียมการ

๑๕.นอกจะอาจหาญต่อยมบาลแล้ว บ้างเมื่อใจเต็มเปี่ยมอุราในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เสียแล้ว ก็อยากที่จะตายโดยฉับพลันด้วยเหตุไปสู่ประตูสวรรค์ ข้ามพ้นนรก เนื่องจากจิตไม่มีบาป จิตไม่หลอนในสัญญากรรมที่ก่อไว้......ทำกรรมเช่นใดใจก็ปรุงแต่งนึกคิดเช่นนั้น คนตายเพราะความคิดมีทุกวันๆ

๑๖.มารสอนให้ยึดโลก ถูกอุปโลกห์แล้วก็ดับ สมมุติทั้งชื่อทั้งตัว ย้อมเราไม่รู้จบ เมื่อยึด จิตก็ไม่อิสระ ทุกข์

๑๗.โตไปไม่โกง อยู่กับสังคมขี้โกง ชุมชนขี้โกง วัฒนธรรมขี้โกง คนขี้โกง สติ ความเพียรและขันติต้องตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว ธรรมดา ยิ่งกระทบอินทรีย์ยิ่งแก่ มนุษย์ต่างหากิน อายุมากหากินเบาๆ(สติพิจารณา) อายุน้อยหากินหนัก(เพียร)

๑๘.มนุษย์คู่กับทุกข์ ไม่พึ่งเพิ่มทุกข์ให้แก่กัน แค่หากินก็เหนื่อยแล้ว ถ้าแบกหรือประชันด้วยตายทั้งเป็น มีกินมีใช้ต้องคำนวณ วัย สังขาร เวลา และชะตาจะสอนเรา ไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นธรรม ช้ำจนตาย

๑๙.เมื่อตั้งอยู่ในธรรมแล้ว ปรโลกหน้าก็ไม่กลัว หวานเจี๊ยบ สบายๆ คนไม่มีเวรอยู่เป็นสุข คนผูกเวร มีเวร เวร กรรม พัฒนาสติปัญญาไปเรื่อยๆ

๒๐.ฝึกกายมีศีล ฝึกสติมีธรรม มนุษย์เป็นสัตว์บำเพ็ญ มรรค ๘

๒๑.ทำกรรมดีใจก็ปรุงแต่งดี นึกคิดอะไรก็ปลอดโปร่ง ทำกรรมไม่ดีใจก็ปรุงแต่งนึกคิดไม่ดี วิตกเศร้าหมอง ไม่ปลอดโปร่ง....เชื่อกรรมเชื่อธรรมฟังประเทศสบาย ข้อระวัง ขัดคอก่อเวรมีเวร เลี่ยงได้เลี่ยง หนีได้หนี

๒๒.เมื่อถูกกระทบ พึ่งระลึกหรือท่องว่า  วิบากๆ กรรมๆเจริญกุศลให้มากวิบากจะตามไม่ทัน

๒๓.ใจต้องเจริญ ใจไม่เจริญ หายนะฝ่ายเดียว

๒๔.เมื่อภาวนาหรือระลึกว่า เราอายุไม่ยืน เราอยู่ได้ไม่นาน เราเหลือเวลาชีวิตไม่เท่าไรมีผลยังละกิเลสได้หลายกอง ทำให้มีพลังและหายเหนื่อย อีกทั้งแจ้งธรรมขึ้นเรื่อยๆ อยู่นานร่างเจ็บ ลุกโอย นั่งโอย หรือจิตไม่เกษมอยู่แบบชดใช้กรรม กรรม

๒๕.เมื่อก่อเวรมาก หลับไม่เป็นสุข ตื่นก็ไม่เป็นสุข เหตุเพราะจิตปรุงแต่งจากสัญญากรรม ครั้นแตกดับก็มีเหตุปัจจัยไปตามเวรที่ก่อ กรรมที่ทำ หรือกิเลส กรรม วิบาก...หรือท่องสังสารวัฏฏ์ที่ยาวไกล.....เวลาอนันต์หรืออสงไขย หรือเป็นการขยายภพภูมิ เชื่อกรรมมีสัมมาทิฎฐิ

๒๖. ๕๐ ปี ผ่านไป ๑๐๐ ปี ผ่านไป ๒๐๐ ปี ผ่านไป......ผ่านไป คนอื่นๆก็ลืมเราหมด ลูกหลานก็ตายหมด คนรุ่นหลังๆก็ตายไปตามลำดับหมด เราถูกอุปโลกห์ขึ้นมาดั่งเป็นอนุภาคของโลก เกิดแล้วดับ ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตน ไม่ใช่ของของตน แต่มีตัวมีตนขณะหนึ่งๆ ใข้ตามเหตุตามปัจจัยเสร็จแล้วก็วาง การชื่นชมโลกมีเวลาน้อย

๒๗.เมื่อเสียเหงื่อ เลือด น้ำตา เงิน ทรัพย์บ่อยๆ หรือพลัดพรากจากสิ่งที่รักสิ่งที่ชอบใจถึงขนาด ธรรมก็เกิดขึ้นๆๆ สิ่งใดที่ทำให้ทุกข์พึ่งมิให้เกิดอีก เกิดอีกก็เจ็บอีก ยิ่งเจ็บ ยิ่งสูญเสียยิ่งมีปัญญาสะสม.... เจ็บไม่จำ ช้ำจนตาย วันนี้เราไม่เจ็บแต่วันหน้าเจ็บ วันนี้มันๆ ระวังสุขหลอกไปทุกข์

๒๘.อุบายวิธีดับอิจฉาริษยา อิจฉาคืออยากได้ ส่วนริษยาคือความไม่พอใจ ไม่ยินดี ไม่ชอบใจ เมื่อสะสมริษยามากๆจะก่อตัวเป็นอาฆาตพยายาทปองร้ายหรือทำร้ายผู้นั้น เมื่อจิตเกิดภาวะเช่นนั้น จิตจะร้อน พึ่งหาอุบายวิธีดับอารมณ์ เช่นพิจารณาเหตุปัจจัย ความเป็นมา สภาวะ กรรม วาสนา โชค ลาภ บุญแต่ละคนไม่เหมือนกัน หรือมีวิถีกรรมต่างกัน จิตจะยอมรับตามความเป็นจริง หรือใช้อุบายวิธีข่มจิตโดยภาวนาคำว่าเขาได้ดีแล้วๆ,อิจฉาไม่ดี ริษยาเราร้อนๆ,เป็นบุญของเขาๆ,บุญเขาๆ,กว่าเขาจะได้มาเขาลำบากๆหรือถ้อยคำอื่นใดเพื่อหยุดการปรุงแต่งของจิตหรือความคิด คิดดีใจสบาย คิดร้ายใจร้อน

๒๙.ไม่เมตตาไม่พึ่งซ้ำเติม เราอาจจะเป็นเช่นนั้นก็ได้เพราะมนุษย์ต่างมีชะตา มีวิบาก มีกรรม เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา เกิดขึ้นกับครอบครัวของเรา ช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็อุเบกขา ความอิจฉาริษยาเมื่อเกิดขึ้นแก่จิต รีบดับเพราะร้อนเผาทั้งตนและผู้อื่น กรรม...

๓๐.เข้าใจคน เข้าใจสัตว์ ใจสบายเพราะจิตยอมรับตามความเป็นจริง(มนุษย์ต่างกันที่ภูมิภพแต่เป็นสัตว์เป็นบำเพ็ญปรับเปลี่ยนภพภูมิหรืออริยะได้

๓๑.ยกย่องเป็นเกจิ ใหญ่กว่าพระธรรม ให้คนกราบไหว้ ไม่งามไม่สมควร ไม่พึ่งชื่นชมเปลือกหรือกะพี ธรรมแท้ต้องละกิเลส หรือชำระหรือถอดถอนกิเลส

๓๒.เราเกิดมาเพื่อเดินออกจากโลก มิใช่จ้องอยู่บนโลก เราต่างมาจากไหนกัน และจะไปที่ไหนกันต่อ อายุที่เหลือมีน้อย...

๓๓.หลงเงิน หลงดอกไม้ หลงสุข จมอยู่กับภพ

๓๔.ไม่มีใครแบกบ้านไป ไม่มีใครแบกที่ดินไป มีแต่อยู่ใต้ดินกันทั้งนั้น

๓๕.คิดดีเป็นบุญ คิดร้ายเป็นบาป

๓๖.ห้ามเล็บ ห้ามผม ห้ามขน.......ไม่ให้ยาว ไม่ให้.......ไม่ได้ สิ่งต่างๆถูกขับเคลื่อนไปตามเวลาอนันต์ เว้นแต่จะเข้ากระแสอริยะ(บุรุษสี่คู่) เชื่อธรรมถึงธรรม

๓๗.ทำไม...เราต้องอดทนกับบ้าน กับรถ กับลูก กับผัว กับคน กับกิจการ กับภาระ กับ........กับทั้สัญญาเก่าๆที่จิตปรุงแต่งนึกคิดบ่อยๆ ความอดทนหรือขันติเป็นพื้นของธรรมทำให้งาม...สู้...มีชีวิตต้องคำนวณ

๓๘.ผัวก็เวร มีลูกก็ลูกเวร มีเพื่อนก็โกงเวร ร่างกายก็แย่เวร ฝ้าก็ขึ้นหน้า กระก็ขึ้นหน้า ทำไมชีวิตจึงบีบคั้นอย่างนี้....อดทนนะ จงมีสติและความเพียร เดี๋ยวทุกข์ก็ดับไป ค่อยๆบ่มอินทรีย์ไปเรื่อยๆ

๓๙.หญิงมีคู่ส่วนมากสยอง สดุ้ง ผวาเมื่อได้คู่ไม่ดี หน้าหมอง ต้องอดทน กรรม..(สถิติหย่า-จดทะเบียนสมรส) มีลูกกวนตัวมีผัวกวนใจ มีผัวเมากินเล่นเที่ยวติดกิ๊กติดสัตว์.....บ้าตาย หมองตาย...ช้ำตายถ้ามีการใช้ความรุนแรงในครอบครัวด้วย มีแฟนต้องคิด มีผัวต้องพิจารณา ต้องเข้าใจ ต้องรู้ใจ ต้องทำใจ ต้องยอมรับตามความเป็นจริง มันเป็นเช่นนั้นเอง เช่นนี้เอง

๔๐.จิตที่ดีเป็นเมล็ดพันธ์ใหม่ เห็นชอบ คิดก็ชอบ พูดทำอาชีพก็ชอบ มรรค ๘ อดีตทำให้คนเจ็บมามาก เศร้าหมองมามากเพราะกรรมที่ก่อไว้

๔๑.ไม่มีผู้ใดมีความสุขด้วยการผิดศีลธรรม ดูภายนอกสบายกาย แต่ภายในจิตหลอนเพราะอดีต ภาวะเช่นนี้มิควรอยู่คนเดียวหรือปล่อยให้อยู่คนเดียว

๔๒.หยุดอยาก ชำระอยากให้เบาลงไม่ได้ เจ็บยาว เจ็บไม่เลิก เจ็บลึกเพราะโทษความอยากได้ซ่อนความเจ็บไว้หรือถูกหลอกให้สุขก่อน เจ็บบ่อยๆและสังเกตดีๆจะเห็นได้และเริ่มเห็นชัดขึ้นๆ จนเบื่อและจะหนีเอง

๔๓.สุขที่แท้จริงคือ จิตที่สงบ ใจที่ไม่มีกิเลส จิตที่ไม่มีทุกข์ สมมุติแล้วก็ดับ ยึดไปก็ไม่ได้อะไร เวลาเหลือน้อยแล้ว....วาง......วางเพื่อว่าง จิดจะได้อิสระ ต้องฝึกละ

๔๔.พึ่งระลึกหรือกำหนดรู้หรือภาวนาหรือท่องในใจบ่อยๆว่า ความโกรธจงอย่าเกิดขึ้นแก่จิตเราๆ ความอยากจงอย่าเกิดขึ้นแก่จิตเราๆเพื่อป้องกันและรักษาจิต

๔๕.ภูมิแห่งการล่าคือดิรัจฉาน กินก็สดุ้ง นอนก็สดุ้ง อยู่ร่วมกันก็สดุ้ง มีภัยตลอดเพราะต่างไม่มีศีล เช่น นก ไก่ งู....เมื่อเกิดเสียงใดก็หนีหรือตกใจหรือสดุ้ง มนุษย์ไม่มีศีลน่ากลัว ไม่คบคนพาล คบบัณฑิต

๔๖.เวลา ชีวิต โลก คำนวณดี ไปดี เวลาหมดทรัพย์เหลือ เวลาหมด ใจไม่พร้อมอันตราย สดุ้งต่อภพ

๔๗.หยุดเวร หยุดบาปได้เป็นพระ ลด เลิก ละได้ชนะมาร ผู้ไม่อยากสุขจริงหนอ

๔๘.ระวัง มีคนอันมากที่คบหาอย่างเป็นศัตรูผู้แฝงมาในรูปมิตร

๔๙.พี่ก็โกง น้องก็โกง ผัวก็โกง เมียก็โกง เพื่อนก็โกง ลูกน้องก็โกง เจ้านายก็โกง พ่อค้าก็โกง....สรุปเราอยู่กับคนโกงเยอะไปหมดเพราะขาดศีล ธรรมดา ธรรมชาติๆ มนุษย์สัตว์ต่างหากิน

๕๐.รวยคงรวยอีกไม่กี่วัน สุขคงสุขอีกไม่กี่วัน มีเกียรติคงมีอีกไม่มีกี่วันเพราะเราแก่แล้ว สังขารก็แย่แล้ว หูตาก็ไม่ดี ลุกก็โอย นั่งก็โอย อยู่ไม่ถึงค้ำฟ้าแล้ว ที่แน่ๆกำลังจะค้ำดินแล้ว ไม่ไหวแล้ว สงสัยจะต้องราบไปกับดิน เป็นดิน ธุลีดิน ร่างนี้ตั้งอยู่ไม่นาน

๕๑.ยิ่งแก่ยิ่งงก เพราะงกมาแต่เด็กหรือภพก่อน ยิ่งแก่ยิ่งดีเพราะดีมาแต่เด็กหรือภพก่อน ภูมิจิตวิถีวิตเหตุปัจจัยผลจึงเป็นเช่นนั้น เช่นนั้นเอง ทำทิ้งหาทิ้ง ทิ้งชีวิต

๕๒.โลกคือลิเกโรงใหญ่ สมมุติแล้วก็ดับสิ้นไป อดีต อารยธรรม ประวัติศาสตร์ เมื่อวานเป็นทั้งเหตุทั้งผล ทั้งถูกทั้งผิด ทั้งดีทั้งชั่ว ทั้งประโยชน์และไม่ใช่ประโยชน์จะเอาอะไรกับมนุษย์ผู้มีกิเลส ถ้าเห็นผิดมีมิจฉาทิฏฐิไม่อยู่ต่อดีกว่า เพราะอยู่ต่อไปก็จะไปขยายภพภูมิชาติให้ยาวออกไปอีก

๕๓.ประพฤติธรรมสำคัญอยู่จิต ฝึกสติคุมจิตมิให้ผิดธรรม อบรมพิจารณาบ่มอินทรีย์ไปเรื่อยๆ ธรรมแท้ๆต้องละกิเลส ธรรมวิเศษเพียงดับเย็นๆ สงบๆ สบายๆ เบาๆ มนุษย์อายุไม่ยืน อยู่นานค้ำดิน ราบไปกับดิน เป็นดิน ธุลีดิน

๕๔.สิ่งสมมุติใครมีมากมีน้อยเป็นเกมส์สั้นๆของภพหนึ่งภูมิหนึ่งในสังสารวัฏฏ์ กว่าจะรวย กว่าจะสบาย กว่าจะค้ำฟ้าอายุก็จะหมดแล้ว ทำแทบตาย หาแทบตาย บริวรทยอยพลาญใช้หมด....ได้ทรัพย์แต่เวลาหมด...

๕๕.พันล้านจิตสงบ เพชรเต็มนิ้วจิตสงบ ได้ลาภจิตสงบ เราเป็นอนุภาคของโลกแต่จะมายึดโลก ตลก พี่โจ๊ก..

๕๖.ไม่ฆ่าเขาก็ตาย ไม่ทำลายเขาก็บาดเจ็บ ไม่เชื่อบาปก็ควรเคารพกฎ ไม่เคารพกฎก็ควรเคารพชีวิต ไม่เคารพชีวิตก็ควรเฉยๆ เข้าใจชีวิตจะรักทุกชีวิต ชีวิตเป็นที่รัก เวลาเหลือน้อยแล้ว...

๕๗.แผนซ่อมบำรุงสิ่งมีสิ่งเป็นจะพาเราไปรับกระทบสัมผัสจะบีบคั้นเราเรื่อยๆจนเกิดความเบื่อหน่ายแล้วจะเดินออกมา...ยิ่งบีบคั้น ปัญญาก็ยิ่งเกิด สะสมไปเรื่อยๆ ปัญญาอบรมสมาธิ

๕๘.เมื่อเริ่มเห็นโทษทุกข์ภัย ใจก็เริ่มละเริ่มวาง มีสิ่งใดต้องระวัง ทำแผนซ่อมบำรุงพร้อมรับภัย สุญโญ

๕๙.เราอยู่กับครอบครัวญาติพี่น้องเพื่อนฝูงบริวารหรือผู้สัมพันธ์กับเรา แต่สุดท้ายไม่มีใครไปกับเรา ทางนี้เป็นทางสายเปลว เวลา สภาวะ อัตภาพจะพาเราไป....ไม่รู้จะพบธรรมเมื่อใด ธรรมหาได้ยาก จิตที่เป็นกุศลผ่องใสอาจหาญต่อยมบาล

๖๐.เว้นแต่จะมีลูกหลานหรือบริวารที่ดีและหรือมีทรัพย์สมบัติ อีก ๕ ปี ๑๐ ปี.....ปี เราก็เป็นคนแก่ที่ไม่มีใครต้องการ ไม่มีประโยชน์ ถูกลืม ถูกทิ้ง ถูกลบชื่อออกไป

๖๑.อีก ๑๐ ปี ......ปี ครอบครัวเป็นเช่นใด อยู่ครบไหม เรายังอยู่ไหม ร่ำรวยหรือวิบัติ ขัดสนหรืออดยาก ขึ้นสูงหรือลงต่ำ ค้ำฟ้าหรือค้ำดิน หรืออยู่ใต้ดิน ไม่เที่ยงๆ

๖๒.หลังความตายมีคนพูดถึงเราสักกี่คน คนรุ่นใหม่ๆ ก็ลืมเรา

๖๓.เพียงส่งจิตออกหรือนึกคิดเรื่องอื่นที่มิใช่ปัจจุบันขณะที่ทำอยู่สัมผัสอยู่ใจก็ทุกข์แล้ว หากเรื่องที่ส่งออกก่อไว้ไม่ดีใจก็เศร้าหมอง กรรมมีจริงเป็นกฎธรรมชาติส่งผลทั้งปัจจุบันและอนาคต ใจสงบเพราะมีปกติมาก่อน ใจดีใจสบาย เย็น เบา ไม่ร้อน

๖๔.คนไม่มีศีล คนไม่มีธรรม คบแล้วเจ็บตัว เจ็บใจ ถูกหลอกตายถูกใช้ตาย ผู้ประสบสอพลอก็ลวง

๖๕.วัตถุนิยม ทุนนิยม เสรีนิยม ดับโลก ทำร้ายจิตวิญญาณ เพียงบำบัดกายแต่ดับทุกข์ใจให้ไม่ได้ ลืมจิต ลืมธรรม ลืมศีล มืดบอด

๖๖.โบสถ์ วัด บทสวด พุทธรูป วัตถุมงคล วิธีทำสมาธิ เครื่องแต่งกาย สถานะ บทบาทเป็นเพียงเครื่องมือ หรือสิ่งงามหรือแนวทางให้ก้าวไป แต่สำคัญอยู่ที่จิต คิดดี พูดดี ทำดีเสมอๆ ประคองจิตมิให้เกิดอกุศล ประพฤติธรรมสำคัญอยู่จิต เช่น ยกมือไหว้แต่ใจคิดไม่ดี การกระทำเป็นเพียงอาการ หรือแสดงหรือแสร้ง หรือทำท่า

๖๗.พระเจ้า เทพ เซี่ยนทำให้เราบริสุทธิ์ไม่ได้ ช่วยเราไม่ได้จริง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คนจะบริสุทธิ์ได้ก็ด้วยปัญญา เชื่อธรรมถึงธรรม

๖๘.การเรียนรู้ที่ซึ้งต้องเข้าไปปะทะกระทบสัมผัสและหรือถ้าสูญเสียหรือเสียศูนย์ เจ็บไม่จำช้ำจนตาย สิ่งใดที่ทำให้ทุกข์พึ่งมิให้เกิดขึ้นอีก พิจารณาให้มาก...

๖๙.อายุมาก ถ้าใช้ชีวิตพันหรือผูกพันกับโลกมาก จะเป็นอันตรายแก่ดวงจิต จิตไม่อิสระ แตกดับย่อมเศร้าหมอง

๗๐.ทำอะไรต้องคำนวณ บีบยาสีฟันก็คำนวณ ตักข้าวก็คำนวณ ใช้จ่ายก็คำนวณ ได้อะไรมาก็คำนวณ อายุมากมีเมียมีลูกก็คำนวณ ...........คำนวณ........คำนวณอายุที่เหลือยิ่งต้องคำนวณ ตกคำนวณ ชีวิตตก ตกชีวิต อายุมากต้องเตรียม....ยิ่งสังขารเสื่อม.......พร้อม....

๗๑.โลกคือไอติม ประเทศหรือชุมชนคือไอติม ตัวเราก็คือไอติมเพราะไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ใช่ของของตน เพียงมีตัว มีตนแวบหนึ่งบนจุดของเส้นทางอนันต์ สมมุติทั้งชื่อทั้งตัว สูญโญ ไอติมคือละลายดับหรือทุกขัง อนัตตา

๗๒.ยศหมด ลาภก็หมด เวลาหมด ทรัพย์ก็หมด เตรียมก่อนหมดเพื่อภูมิภพที่ดี

๗๓.ระวัง เรากำลังถูกไตรลักษณ์บดขยี้ให้หายไปจากโลก

                   โดย พันตำรวจโทสุรเดช  ผะอบทิพย์

                               ๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๘

บทความที่ได้รับความนิยม