วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สมาธิเคลื่อนที่กับการจัดการทางจิตวิญญาณในเบื้องต้น




การปฏิบัติการทางจิตวิญญาณนั้น โดยหลักจะปฏิบัติไปที่จิตหรือ
ตัวจิตซึ่งสำคัญสุดต้องมีปัญญาคือความรอบรู้ทั้งหลายทั้งในทางโลกหรือสมมุติบัญญัติ และในทางธรรมที่สำคัญสูงสุดคือไตรลักษณ์ หรือสร้างกระบวนการทางปัญญาให้เกิดขึ้นแก่จิตซึ่งจะต้องผ่านกระบวนการศึกษา อบรม ปฏิบัติเพื่อจะได้เตือนจิต สอนจิต อบรมจิต แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากปฏิบัติไปที่จิตฝ่ายเดียวแล้ว ย่อมทำให้จิตช้ำหรือบอบช้ำเนื่องจากถูกกระทบบ่อย หรือมีความถี่ในการถูกกระทบมากเกินไป จึงต้องมาปฏิบัติการจัดการกับภายนอก หรือกำหนดการจัดการกับภายนอก หรือกำหนดวิถี หรือหาวิถีเพื่อหลีก หรือเลี่ยงการกระทบหรือสัมผัส เช่น ติดต่อหรือคบกับคนพาลย่อมนำเรื่องร้ายหรือไม่ดีมาให้ ติดต่อกับผู้ไม่มรรยาท ไม่มีศีล หรือมีแต่ความอยาก อาจจะปฏิบัติต่อเราไม่ดี ถูกเบียดเบียน หรือโกงเราได้ การปฏิบัติทั้งสองส่วนเช่นว่านี้เรียกว่า การจัดการทั้งภายในและภายนอกจิต    หากภายนอกควบคุมไม่ได้ก็ต้องบ่มอินทรีย์ให้หนัก หรือทำความเข้าใจและยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ว่ามีเหตุมีปัจจัยเป็นเช่นนี้เอง การจัดการกับภายนอกจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักกับสิ่งใดๆ คำว่า สิ่งใดๆ หมายถึง คน สัตว์ สิ่งของ เครื่องมือเครื่องใช้ ต้นไม้ ภูเขา ดิน ฟ้า อากาศ หรือวัตถุธาตุใดๆ รวมตลอดถึงประวัติศาสตร์ อารยธรรม ประเพณี ค่านิยม ระบบความคิด ความเชื่อใดๆ ซึ่งการรู้จักทำให้เราเข้าใจและสามารถปฏิบัติกับสิ่งที่เราเข้าใจได้ง่ายขึ้น เช่นเรารู้ว่า รถยนต์ที่ปรุงแต่งมีส่วนประกอบมากย่อมต้องซ่อมบำรุงมากเสียค่าใช้จ่ายสูงต้องดิ้นรนหาเงินมากขึ้น หรือคนใจร้าย คนพาล คนขี้โกงย่อมนำโทษมาให้ ก็ควรเลี่ยง หรือไม่คลุกคลีหรือไม่ขัดใจเพราะอาจถูกทำร้ายหรือฆ่าหรือสังหารเราได้ หรือหากต้องร่วมทำงานด้วยก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษอย่า ริเริ่ม ทำความความเห็น แย้ง ขัด ต้าน แต่ให้เชื่อ ให้ฟัง ให้รับใช้ ให้พลีชีพไปก่อน หนีได้ก็หนี หลีกได้ก็หลีก ถ้าไม่พบได้อีกคงเป็นบุญเป็นกุศล หากต้องพบอีกหรือต้องอยู่ร่วมนานๆอีกก็คิดเสียว่า เป็นกรรมของสัตว์ เป็นคราวเคราะห์ของเราที่ต้องมาประสบเช่นนี้ หรืออาจท่องว่า หมู่สัตว์ๆ หรือถ้าไม่รู้จักสิ่งที่ทำหรืองานที่ทำก็ทำให้วิตกและอาจเกิดความเสียหายได้ หรือไม่รู้จักนิสัยใจคอของชายที่มาร่วมคู่ให้ดีพอแล้ว เมื่อได้มาแล้วย่อมทุกข์ยาว ทำให้จิตเศร้าหมอง หรือไม่รู้จักเครื่องมือเครื่องใช้ดีพอแล้วซื้อมา ย่อมพบความชำรุดหรือซ่อมแพง,ซ่อมรถไม่รู้จักช่างซ่อมว่า มีความละเอียดและสุจริตหรือไม่ ย่อมทำให้รถเสียหายและถูกหลอก  หรือเห็นผู้อื่นปลูกส้มแล้วได้ผลและรวยจึงปลูกตามบ้างแต่ไม่รู้จักโดยตลอดทำให้เสียหายขาดทุน ฉะนั้น การรู้จักกับสิ่งใดๆ เป็นเรื่องสำคัญมาก กับทั้งรวมตลอดถึงรู้และเข้าใจสิ่งแวดล้อมที่สิ่งรู้จักนั้นดำรงอยู่ด้วย นอกจากรู้จักแล้วต้องประกอบกรรม ดีหรือสร้างเหตุสร้างปัจจัยที่ดี (ทำกรรมดี จิตหรือใจก็ปรุงแต่งแต่สิ่งดีๆ ใจสบาย ทำไม่ดีจิตย่อมเศร้าหมอง) เช่น ทำทุจริต ก่อเหตุร้าย ก่อเวร ว่าผู้อื่น หรือไม่รู้กำลังแห่งตน เช่น ฐานะน้อยแต่ซื้อรถเก๋งมาขับ หรือมีเงินน้อยแต่สร้างบ้านหลังใหญ่ต้องผ่อนส่งระยะเวลาอันยาวนาน หรือก่อหนี้ หรือมีลูกมาก หรือมีทรัพย์ราคาแพงเกินฐานะ หรืออวดตัวตนมากเกินกำลังหรือเกินไปต้องใช้ต้นทุนทางการเงินสูง หรือไม่คำนวณในประกอบการใดๆ หรือมองไม่ตลอดสายทั้งกระบวนการและไม่รู้สิ่งแวดล้อมเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง กับทั้งปัจจัยแห่งเวลาย่อมนำทุกข์มาให้  จึงกล่าวได้ว่า มี หรือเกี่ยวข้องกับสิ่งใดก็ย่อมทุกข์กับสิ่งนั้น แม้กระทั้งกายเราก็เป็นทุกข์อยู่แล้ว หรือเรื่องมากก็ทุกข์มาก เนื่องจากจิตทำงานมาก กายก็ต้องทำงานมาก และแม้แต่มีเรื่องน้อย เช่นป่วยเรื้อรัง หรือมีทรัพย์ราคาแพงเกินฐานะและยังต้องผ่อนส่งระยะเวลายาวนาน จิตก็ทำงานหนักแล้ว อาจผูกคอตายก็ได้ถ้ามีเรื่องอื่นเข้ามากระทบเพิ่มอีก สรุปได้ว่า ต้องรู้จัก,ต้องรู้กำลัง,ต้องคำนวณและที่สำคัญต้องสร้างเหตุดีๆ,และ สิ่งใดทำให้เกิดทุกข์อย่าพึ่งให้เกิดขึ้นอีก เจ็บแล้วต้องจำต้องพิจารณาหาเหตุปัจจัยเพื่อมิให้เกิดขึ้นอีก ในส่วนของการจัดการภายในนั้น ควรพิจารณาหรือระลึกบ่อยๆหรือเสมอๆ ซึ่งความตาย ความชรา ความเจ็บ ความป่วย ความพลัดพราก ความมีกรรมเป็นทายาท การระลึกดังกล่าวกระทำเพื่อให้จิตหรือใจรู้ถึงสภาพความเป็นจริงของธรรมชาติ หากระลึกบ่อยๆและหรือมีการถูกกระทบสัมผัสด้วยแล้วปัญญาจะเกิดเร็วขึ้นทำให้เห็นความน่ากลัว และโทษภัยที่เกิดขึ้นกับตัวเองโดยเฉพาะหญิงที่มีสามีไม่ดีจะเห็นได้ชัด หรือรู้ชัด แต่ถึงอย่างไรก็ตาม หากผู้ใดอายุยังน้อยอยู่ ขอให้สู้ต่อไป ส่วนผู้ทีมีอายุมากแล้วก็ขอให้อดทนอีกนิดคงไม่เจ็บอีกแล้วเพราะเวลาใกล้หมดแล้ว



พ.ต.ท.สุรเดช  ผอบทิพย์

20 ธ.ค.56  

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556

สมาธิเคลื่อนที่ ปัญญา ๒




                           

เมื่อท่านใดฝึกสมาธิเคลื่อนที่จะรู้ได้เองว่า มีการกำหนดรู้โดยใช้กรรมฐานหลายกองหรือหาที่อยู่ให้จิตหลายลักษณะเป็นต้นว่าลมหายใจเข้าและออก(อานาปานสติหรือรู้สึกตัวกับการไหลของลมลมออก)ขณะที่ทำงานหรือทำการใดๆ เป็นจังหวะ,การท่องถ้อยคำหรือบริกรรมเพื่อเป็นทุ่นล่อให้จิตมาเกาะ เช่นท่องคำว่า  พุทโธ นะโมพุทธายะ หนึ่ง สอง สาม สี่,เพ่งหรือมองหรือจ้องเพื่อรวมจิต,ระลึกตรงๆหรือทำความรู้สึกตรงๆกับสิ่งที่สัมผัส,ระลึกหรือนึกหรือคิดแต่สิ่งที่เป็นกุศลหรือธรรม และเมื่อท่านใดเฝ้าสังเกตมีการตรวจจับดูจิตของตนหรือสังเกตความคิดหรือการปรุงแต่งของจิตแล้ว จะรู้ว่าความคิดหรือการปรุงแต่งของจิตนั้น เกิดจากกรรมหรือการประกอบกรรมหรือการคิด พูด ทำที่เกิดขึ้นแต่ละขณะๆ ที่ผ่านมาแล้ว ฉะนั้น หากผู้ใดทำกรรมดีจิตย่อมคิดนึกแต่สิ่งที่ดีเป็นสุข ใจสบาย ตรงนี้เป็นเพียงความสงบไม่ใช่ปัญญา แนวปฏิบัติให้คิดนึก(ขณะคิดนึกให้รู้ตัวหรือกำหนดรู้)แต่สิ่งที่เป็นกุศล พูดหรือทำโดยไม่เบียดเบียน(ศีล,ทาน,เมตตา หรือการใดๆตามชุดมรรค ๘) เมื่อฝึกบ่อยๆ จะมีการระวังมิให้อกุศลเกิดขึ้นแต่จิต เช่น เมื่อขับรถต่อท้ายรถคันหน้าที่แล่นช้าหรือรอคอย หรือมีคำพูดที่ไม่พอใจกระทบเข้ามา ต้องกำหนดจิตไว้ก่อนว่า จะไม่เคืองหรือไม่พอใจหรือไม่โกรธ ต้องรักษาสภาพแห่งจิตหรืออาการแห่งใจ ไม่ให้ใจหรือจิตหวั่นไหวหรือกระเพื่อม ส่วนแนวคิดการเจริญปัญญา  เพื่อหลุด หรือชำระกิเลสนั้น ให้ระลึกหรือนึก  และต้องทำบ่อยๆ  หรือเสมอๆ   หรือโดยตลอดเกี่ยวกับไตรลักษณ์ คือความไม่เที่ยง  แปรปรวน  เปลี่ยนแปลงแตกดับ สลายหายสิ้นไปซึ่งวัตถุธาตุใดๆ ทั้งหมด(ทั้งรูปและนาม)ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ ต้นไม้ ภูเขา ประเทศ   อาณาจักรวัฒนธรรม  ประเพณี  ระบบความเชื่อ ความคิด    ความนึกคิดปรุงแต่งของจิต อาจกล่าวได้ว่า ไตรลักษณ์ก็คือ  ความสัมพันธ์ระหว่างวัตถุธาตุกับเวลา โดยเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ ๑๐ ปี ๒๐ปี ๑๐๐ ปี พันปี แสนปี ล้านปี .........อินฟินิตี้หรืออสงไขย หรือสี่อสงไขยแสนกัปป์  ไม่เหลืออะไรเลย   ระหว่างที่อยู่ก็เวียนวนไปมา   ไปเรื่อยๆ   ไม่รู้จบ   ทั้งหมดในโลก   นอกโลก จักรวาล อวกาศ  สรรพสิ่งทั้งปวงเกิดจากเหตุปัจจัย (เหตุปัจจะโย)  เป็นไปตามวิวัฒนาการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป   และไม่สามารถย้อนเวลาได้  อดีตไม่มี      (เหตุที่เข้าใจว่ามีอดีตเนื่องจากมีสัญญาความจำได้ หมายรู้และสังขารเนื่องจากการปรุงแต่งของจิต มีเพียงแต่ปัจจุบันที่เกิดขึ้นทุกขณะๆ      สืบต่อเนื่องกันไป  เมื่อรู้ความจริงเป็นเช่นใด สิ่งต่างๆ ที่มีอยู่  จะธรรมดา       ธรรมดา เพราะเป็นไปตามพระไตรลักษณ์  มีอายุขัย แตกดับ    สิ่งที่เรารับรู้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นภูเขา  มนุษย์ สัตว์  อารยธรรม   ความรู้ทางโลก    กติกาชุมชน เป็นเพียงสมมติ  ความเป็นตัวตนจะมีหรือมีเพียงชั่วขณะๆ  แล้วก็เปลี่ยนแปลงเป็นมายา    หรือเป็นเพียงสภาพธรรม  หรือธรรมชาติ  แนวปฏิบัติการเจริญปัญญาคือ ให้พิจารณามองเห็นสิ่งที่มี  ที่เป็นว่า      มีโทษมีประโยชน์เพียงใด โดยเฉพาะโทษภัยของการมี    การเป็น  เช่น    มีสิ่งใดก็ทุกข์กับสิ่งนั้น   เห็นความเปลี่ยนแปลง   ฝุ่นเกาะ   ซีด    เก่า ชำรุด ป่วย  เจ็บ หัก  พัง  เสียหาย  แตกดับ  อายุขัย      เวลาอนันต์    หรือเวลาอสงไขย      และกรณีหญิงสวยให้มองผ่านทะลุแป้ง   ชั้นผิวหนัง   ให้เห็นอวัยวะน้อยใหญ่          ตกขาวหรือท่องในใจว่า  เนื้อหนัง  เอ็น  กระดูก  พังผืด  ตกขาว หรือทุบศีรษะเพื่อเห็นอสุภะ  เมือก  เยื่อในกระโหลก       มันสมองแตกกระจายในอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชน  หรือ ผม   ขน  เล็บ   ฟัน หนัง พังผืด ตกขาวๆ การพิจารณา  หรือการโยนิโสมนสิการเพื่อมิให้ยึดมั่น  ถือมั่นกับสิ่งใดๆ         แม้กระทั้งร่างกายของเราเอง  มองเห็นความเปลี่ยนแปรสลายหายไป    หรือเห็นแจ้งตามความเป็นจริง  หรือมิให้เมา หรือหลง    หรือติดอยู่กับภพที่เป็นอยู่นี้ ที่เราอยู่ ณ ปัจจุบัน    เป็นเพียงจุดหนึ่งบนเส้นทางที่ยาวไกลเป็นอนันต์  เป็นอสงไขย   หรือพวกเรามารวมตัวกันในอาณาจักรหรือชุมชนนี้เพียงแวบหนึ่ง    แล้วก็สลายหายไป รู้แบบนี้ยังโกรธ ยังอยากมีอยากเป็นอีกหรือ เวลาหมด ทรัพย์ก็หมด มีมากต้องรักษา มีต้นทุนไม่อิสระ จิตไม่สามารถอยู่กับปัจจุบันได้ ถึงจะทำให้บุตรหรือคนที่รัก ให้แล้วก็ยังผูกพัน ห่วงอยู่ หรือมีอิสระหรือไม่   และชีวิตที่เกิดมาและตายลงหาได้แค่เพียงวัตถุธาตุชั่วแวบหนึ่งเพียงนี้หรือ    แล้วจิตวิญญาณจะทำอย่างไร ที่ได้มาหรือมีอยู่เบียดเบียนมนุษย์สัตว์และสิ่งแวดล้อมธรรมชาติหรือไม่ ดิ้นมาทั้งชีวิตจะมาจบลงเสียเช่นนี้เสียภพชาติที่เกิดมาหรือไม่ แล้วจะได้เกิดอีกเมื่อใด ตอนไหน หรือ ณ เวลาอนันต์ และจะได้พบกับพระพุทธศาสนาหรือไม่  กับทั้งจะหาวิธีการ หรือกระบวนการใดๆ        มาจัดการหรือชำระกิเลสที่มีอยู่


พ.ต.ท.สุรเดช  ผะอบทิพย์

                                                                                                                                 ๑ ธ.ค.๕๖

 

บทความที่ได้รับความนิยม