วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2560

สมาธิเคลื่อนที่กับข้อคิดข้อธรรม ๑๖

สมาธิเคลื่อนที่กับข้อคิดข้อธรรม ๑๖
 ๑.เอาชีวิตไปแลกกับวัตถุสิ่งของเกียรติตำแหน่ง แล้วไม่พ้นทุกข์ ถูกหลอก เพราะได้ลืมทำหน้าที่ทางจิตวิญญาณ

๒.ใจรู้ไม่ยึดติด ใจยึดติดยังไม่รู้ พิจารณามากๆ หรือเจ็บมากๆ(ประจักษ์แจ้ง)ก็ละได้เองเพราะรู้แจ้งประจักษ์ หรือประจักษ์แจ้ง

๓.เมื่อเรารู้สึกตัวโดยตลอด หรือตามเท่าทันการเคลื่อนไหวกายได้ ใจเราก็สุข

๔.เมื่อเราหากินจนลืมชีวิตและนึกถึงอดีตแล้วใจไม่สงบ ภพที่จะไปไม่ดี จะหมดเวลาแก้ไข

๕.กายนี้เป็นภาระต้องบำบัด ใจนี้ก็เป็นภาระที่นึกคิดไม่หยุด เมื่อตั้งอยู่ในธรรมก็ดับใจที่คิดได้

๖.เมื่อขาดความเกื้อกูลแบ่งปันสภาพเสือสิงห์กระทิงแรดก็เกิด ถ้าให้ก็ส่งเสริมไมตรี

๗.เมื่อเราเห็นความดี เห็นบุญกุศลไม่ได้ เราก็เป็นคนบาป กรรมหนัก มีความอาภัพธรรม ธรรมะไม่ได้ฟังได้ทุกภูมิ

๘.เอาเครื่องประทินผิวขนเล็บมาปกปิด เอาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มเครื่องประดับมาปกปิด เอาฐานะบทบาทมาปกปิดหรือเอาคำพูดการกระทำมาปกปิดซึ่งธาตุแท้ หนังแท้ ใจของเราก็รู้

๙.เสียดายเวลาชีวิตที่ใช้ไป ที่ใกล้จะหมด เสียดายทรัพย์ที่หามา เสียดายในสิ่งที่ต้องการแล้วก็ไม่ได้ เสียดายที่ยังไม่เห็นทางที่จะนำจิตออกจากวัฎฎะ เมื่อเราไม่รู้คำสอน เราก็เวียนเกิดตายไม่รู้จบสิ้น

๑๐.มนุษย์เป็นอยู่ยาก ดำเนินชีวิตก็ยาก กว่าจะเรียนจบได้ ทำงานก็แข่งขัน กว่าจะได้ที่อยู่อาศัยก็ลำบาก ต้องผ่อนส่งสร้างทำทั้งชีวิต กว่าจะได้รถได้ยศก็แสนยาก กว่าจะรวยได้ก็ต้องต่อสู้สูญเสีย พลัดจาก ได้คู่มาที่ถูกใจก็แสนยาก แต่แล้วก็มาตาย ไม่ได้รู้หรือเข้าถึงพระสัทธรรม

๑๑.กว่าจะรู้ทุกข์ก็ทับถมเต็มลำเรือ แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องรับกรรมไปก่อน ทุกข์เป็นใหญ่ของคน เชื่อธรรมชีวิตไม่ร้อน ภพภูมิที่จะไปก็ดี

๑๒.กฎเกณฑ์ทางสังคม ตัดสินตามหลักฐานกติก ไม่ได้ตัดสินตามศีลธรรม ความคับแค้น แค้น อาฆาต พยาบาท จองเวรก็มีอยู่ แต่กฎกรรมรับเต็มที่มีดที่สว่างที่ใจรู้

๑๓.ความเจริญของมนุษย์ ความสุขของมนุษย์อยู่ที่จิตใจ ไม่ใช่วัตถุสิ่งของภายนอก เมื่อติดวัตถุจิตก็หนาแน่นด้วยกิเลสตัณหาทำให้บดบัง หรือมองไม่เห็นความจริง

๑๔.จะได้สิ่งใดมาชีวิตเราก็สั้นลงๆ ถ้าหยุดไม่เป็นพักไม่เป็น มันก็ฆ่าชีวิตเราต่อภพไม่รู้จบ

๑๕.บ้างได้เกิดมาภพหนึ่งกว่าจะรู้ กว่าจะเข้าใจ หรือเห็นความจริงได้ก็ต้องบาดเจ็บ สูญเสีย มีทุกข์ที่ยังไม่รู้จบ หรืออายุก็มาหมด แต่ก็ยังไม่สายที่จะสร้างบุญบารมี แต่ก็ช้าไปสำหรับผู้ที่อายุกำลังจะหมด

๑๖.มี ไม่มี จิตก็ไม่อิสระ เพราะติด มีทรัพย์ก็ต้องมีอิสระมีปัญญา ไม่มี ถ้าติดก็ทุกข์ดิ้นร้นจนมี ก็ทุกข์อีก จนและอยากทุกข์สองชั้น

๑๗.เรากำลังต่อสู้ให้กับจิตของเราที่ถูกกระทบตลอดเวลา เดี๋ยวพอใจ เดี๋ยวไม่พอใจ ผู้มีปัญญาย่อมตามรักษาจิตของตน

๑๘.เมื่อสังคมร้าย คนก็จะใจร้าย ใจไม่ดี น้อยใจ ข้องใจ คับแค้นใจ แค้น เอาคืน เมื่อมีการให้เกื้อกูล แบ่งปัน ความดุร้ายก็ลดลง

๑๙.เขากอดเราชอบเราก็เพราะสนองกิเลส หรือมีและรักษาประโยชน์ ผลประโยชน์ของเขาได้ แต่ถ้าสนองไม่ได้ เขาก็ไม่เอาเรา ทำลายเราได้

๒๐.เมื่อรู้ในการละทรัพย์ หรือจากทรัพย์ได้ ใจก็จะโปร่ง และเมื่อวางลงไม่แบกก็เบาใจ ก็ว่างจากกิเลส ความสงบก็เกิด

๒๑.เมื่อรู้ในการใช้ทรัพย์ก็เป็นผู้มั่งมี และถ้ามีปัญญาแก่ก็ไม่แสวงหาทรัพย์เพราะทรัพย์เป็นภาระ กายก็เป็นภาระ

๒๒.ค่าโก้ หมายถึงทุนที่ใช้เพื่อรักษา ส่งเสริม หรือประชันซึ่งสถานะหรือบทบาทของบุคคลในทางสังคม ค่าโก้เป็นภาระ เป็นทุกข์ที่ต้องแบกหาม

๒๓.ชีวิตคือการเดินทาง เราต้องเปลี่ยนผ่านเหตุการณ์ภพภูมิไปเรื่อยๆ เมื่อติดในภพก็จะเป็นทุกข์ หลง หลงนานเสียเวลา ไม่รู้ทางก็ไม่ดับสุญ

๒๔.ทรัพย์สมบัติ เขาให้ใช้ไม่กี่ปีกี่ครั้ง ที่เหลือเขาให้นอนดู นั่งดู

๒๕.ถ้าความสบายคือความสุขเป็นความพ้นทุกข์ ผู้มั่งมีผู้ยิ่งใหญ่ก็พ้นทุกข์แล้ว แต่ก็มาทุกข์ใจมีสัญญามีอดีต ต้องมาแก่เจ็บตายทั้งต้องหาที่พึ่ง(สำคัญ)

๒๖.เมื่อเราไม่รู้ธรรม ยิ่งแก้ไขขอะไรก็ยิ่งยุ่ง เพราะเราแก้ไขไปตามใจ ตามกิเลส ตามสัญญาที่วิปลาสไปจากความจริง

๒๗.เมื่อตรวจจับอารมณ์ความคิดไม่ได้ ใจก็เหนื่อย แล้วดับมันไม่ได้ก็ยิ่งเหนื่อยอีก เป็นความทุกข์ร้อนใจที่เป็นบาปเป็นกฎสะท้อน เกิดแต่เหตุมีสัญญา ถ้าดับภพต่ำ

๒๘.ไม่เห็นทุกข์ ไม่รู้ธรรม รู้ได้เมื่อมีทุกข์ ทุกข์จะสอนให้หายทุกข์

๒๙.การก่อบาปเป็นการทำร้ายจิตวิญญาณ และทำลายภพชาติเป็นปัญหาต่อการเกิดใหม่

๓๐.ธรรมะ เมื่อรู้ได้ปฏิบัติได้ก็เกิดศรัทธาจนถึงมีปัญญาละ แต่ถ้าไม่รู้ก็ต้องมาดักดาน ติดวัฎฎะ

๓๑.โลกเป็นอยู่ด้วยความถูกบีบคั้น ถูกบดขยี้เพราะไม่เที่ยงมีความแปรอยู่ตลอด มีมากเป้าก็มาก

๓๒.บุญเป็นเครื่องชำระสันดานไม่ให้ยึดมั่น เห็นแก่ตัว สำคัญผิด เห็นผิด

๓๓.อย่าผูกพันกับโลกมาก เกิดอะไรขึ้นจะละไม่ทันวางไม่ทัน ทั้งบุญก็ต้องมีเพราะเป็นที่พึ่งที่ไป ถ้ามีปัญญาจะไปภพภูมิไหนก็ไป

๓๔.เหตุที่ฟังธรรมไม่ได้เพราะจิตนั้นได้มืดบอดมาแต่แรกเป็นยุคมืด เหมือนภาชนะที่คว่ำอยู่

๓๕.เมื่อเราไม่อยู่ในขอบข่ายของศีลธรรม เราก็หาความสงบใจไม่ได้

๓๖.เห็นความตายเป็นประธาน เห็นตา หู ปอด ตับ ไต....เสื่อมก่อน ตายก่อน ธรรมก็เริ่มแจ้ง ที่หลงอยู่ก็เริ่มละ

๓๗.กายและสิ่งนอกกายคืออุปกรณ์ขีวิต อย่าไปติด อย่าไปหลงในภพตัวตน อีกไม่นานภูมิภพเราก็หมดแล้ว

๓๘.ดูปัจจุบัน รอบตัวเราที่เป็นอยู่และมองไปข้างหน้าก็จะเห็นวันเวลา วัยสังขาร ความดับ รอเราอยู่ ความอยากความหวังก็เบาลงๆ ใจก็เริ่มละ

๓๙.ไม่มีวัตถุใจไม่เป็นทุกข์ แต่มีหนี้นึกได้ทุกข์ได้ทุกวินาที มีมากก็ถูกจองจำ

๔๐.อย่าไปผูกพันอะไรมาก มีหน้าที่ภาระใด ก็ทำให้เสร็จสิ้น อย่าไปติดค้างอะไร ใจก็จะได้โปร่งโล่ง สัญญาต่างๆก็ไม่จรเข้ามา จิตก็สงบ ไม่ปรุงแต่งมั่นหมายอะไร อีกไม่นานเราก็ต้องเดินทางแล้ว

๔๑.จงพัฒนาจิตไปสู่ความดับ ไม่ใช่ความเกิดหรือก่อผูกติดกับภพ

๔๒.ไม่อดทน ไม่อดกลั้น รักษาความดีไม่ได้ เอาชีวิตไปทิ้ง

๔๓.เอาไม้กวาดไปสู้กับตึก เอาชีวิตไปแลกกับวัตถุ เสียดายชีวิต

๔๔.ผลกำไรของจิตวิญญาณคือรอยยิ้มบนใบหน้า วันใดที่เราไม่ยิ้ม วันนั้นขาดทุน

๔๕.ภพมนุษย์สั้นแต่เมื่อเจริญอยู่ศีลสมาธิปัญญาจะไปภพไหนภูมิไหนก็ไปได้ สบายๆ เพราะมีธงชัยจุดหมายมีจิตธรรมเป็นที่พึ่งแห่งตนแล้ว

๔๖.ฝึกมากตัวรู้ตัวตื่นก็เกิดกระทบอะไรก็รู้เท่าทันกระทบบ่อยประสบการณ์ก็มากตัวละก็เกิด เมื่อละได้จิตก็วาง เมื่อวางได้จิตจึงว่างสงบจากกิเลส ไม่ใช่สงบจากสมาธิจากทรัพย์จากบุตรหรือวัตถุสิ่งของ ตำแหน่งหรือสิ่งอื่นใด

๔๗.กายนี้ไม่ใช่ของเราเพราะบังคับบัญชาไม่ได้ต้องแก่เจ็บตาย ผมขนเล็บต้องยาวต้องเปลี่ยนสีหลุดร่วงฟันต้องผุพังหนังก็จะแห้งเหี่ยวตาจะฝ้าฟางหู....ขาเข่าแขนไหล่ต้องปวดไม่มีแรง สมองหัวใจปอดตับไตต้องเสื่อมมีเชื้อโรคอาศัยต้องแตกดับเป็นที่สุด

๔๘.บ้านไม่ใช่ของเรา บ้านหลายหลังถูกไฟไหม้ หลายหลังถูกพายุพัด แผ่นดินไหวฟังถล่ม หลายหลังถูกฝนแดดปลอกสัตว์สาดซัดกัดกินอาศัย คฤหาสน์โตก็ไม่ใช่ของเราเพราะไม่ได้อยู่จริง คนใช้อยู่ แต่เรากำลังจะจากไป

๔๙.รู้จิตเพื่อละอารมณ์ ดับกิเลสต้องมีปัญญา จิตจะได้สงบ เบา

๕๐.คำสอนพระพุทธเจ้าทำคน ทำเทพ....ให้มีคุณภาพจนถึงการดับสุญ

๕๑.พอสำเร็จทรัพย์เอกลาภสังขารก็มาเสื่อม อายุก็จะมาหมด บุตรคนรักก็มาแยก และจากไปเพื่อนที่รักมิตรที่ชอบก็หนีกลับไม่ได้ความจริงใจแล้วจิตจะพึ่งสิ่งใด

๕๒.รู้เกิดรู้ดับก็จะรู้ท่าทีในการวางตัวต่อโลกไม่ต้องมาแบกดีใจร้องไห้ไป

๕๓.เอาชีวิต เอาจิต เอากายไปแลกกับบ้าน กับรถ กับยศ กับตำแหน่งชื่อเสียง หรือวัตถุสิ่งของ ไม่ใช่ ที่ถูกจะต้องเอากายไปแลกกับจิต เอาชีวิตไปแลกกับธรรม จะได้ไม่ต้องมาเกิดอีก (ติดในภพเพราะถูกย้อม)

๕๔.ชีวิตเป็นของหนักเป็นรังของโรคเป็นของเหลือน้อยเป็นของไม่เที่ยง ไม่ใช่ของเรา ตื่นได้แล้ว

๕๕.เมื่อคุณธรรมเสมอกัน ความคิดความเห็นก็เหมือนกัน

๕๖.เมื่อเราทำกรรมไม่ดี เราก็ทำร้ายใจของเราเอง เพราะใจได้บันทึกในสิ่งที่ทำ จะผุด หรือจรเข้ามา เช่น นักฆ่าเห็นการฆ่าการล่า นักขโมยเห็นของที่ลักมา นักรักเห็นคู่นอนคู่อดีตที่ก่อไว้ จึงก่อเชื้อสัญญา ฉะนั้น ถ้ารักตัวเอง(รักษาใจ) ก็ต้องไม่ทำบาปอกุศล

โดย พ.ต.ท.สุรเดช ผะอบทิพย์    
               

 22 กันยายน 2560

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม